FTA ไทย–ตุรกี คืบหน้าตามเป้า เดินหน้าปิดดีลปี 65

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลประชุมเจรจา FTA ไทย – ตุรกี รอบที่ 7 คืบหน้าตามเป้า สรุปความตกลงได้เพิ่มอีก 2 เรื่อง ทั้งเรื่องความโปร่งใส และการระงับข้อพิพาท ตั้งเป้าหาข้อสรุปให้ได้ในรอบหน้า พร้อมร่วมปรับปรุงระดับการเปิดตลาดสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมให้สมดุล  ย้ำ ภาคการผลิตและผู้ประกอบธุรกิจ ต้องได้ประโยชน์จริง เดินหน้าปิดดีลปีหน้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – ตุรกี รอบที่ 7 ผ่านระบบทางไกล โดยได้เป็นประธานร่วมกับนางบาฮาร์ กึซลือ รองอธิบดีกรมความตกลงระหว่างประเทศและกิจการสหภาพยุโรปของตุรกี ซึ่งการเจรจารอบนี้ มีการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างหัวหน้าคณะเจรจาของสองประเทศ และการประชุมระดับเทคนิคของคณะทำงาน 6 คณะ ได้แก่ คณะทำงานด้านการค้าสินค้า การเยียวยาทางการค้า กฎระเบียบทางเทคนิค มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช กฎหมาย และทรัพย์สินทางปัญญา โดยการเจรจามีความคืบหน้าด้วยดีตามที่ตั้งเป้าไว้

นางอรมน กล่าวว่า การเจรจารอบนี้ สามารถสรุปผลการยกร่างความตกลง FTA เพิ่มอีก 2 บท คือ บทว่าด้วยความโปร่งใส และบทเรื่องการระงับข้อพิพาท ทำให้สามารถสรุปความตกลงได้ถึง 4 บท จากทั้งหมด 14 บท

สำหรับบทที่ยังไม่สามารถสรุปได้ เช่น บทว่าด้วยมาตรการเยียวยาทางการค้า บทว่าด้วยมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และบทว่าด้วยมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช โดยตั้งเป้าหาข้อสรุปให้ได้ในการเจรจารอบหน้า ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เพื่อมุ่งปิดดีลการเจรจาในปี 2565

ที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อข้อเสนอการเปิดตลาด โดยเฉพาะรายการสินค้าที่จะลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรระหว่างกัน และเห็นว่าผลการเจรจาจะต้องเกิดประโยชน์ต่อภาคการผลิตและผู้ประกอบธุรกิจอย่างแท้จริง และมีความสมดุลระหว่างระดับการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะปรับปรุงรายการสินค้าที่จะเปิดตลาด เพื่อแลกเปลี่ยนข้อเสนอกันอีกครั้ง ปลายเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ ได้กำหนดจัดประชุมทางไกลของคณะทำงานด้านกฎ ว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2564 เนื่องจากการเจรจารอบนี้ยังไม่ได้มีการประชุมของคณะทำงานชุดนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานของคณะทำงานชุดต่างๆ คืบหน้า ก่อนจะมีการประชุมเจรจาในรอบที่ 8

ทั้งนี้ ตุรกี เป็นคู่ค้าอันดับที่ 37 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในปี 2563 การค้าระหว่างไทยและตุรกี มีมูลค่า 1,339 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทยส่งออกไปตุรกี มูลค่า 952 ล้านดอลลาร์ฯ และไทย นำเข้าจากตุรกี มูลค่า 388 ล้านดอลลาร์ฯ

สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น อุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์ ,ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ,เครื่องปรับอากาศ ,เม็ดพลาสติก

สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เคมีภัณฑ์ ,เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ,พืชและผลิตภัณฑ์พืช ,เสื้อผ้าสำเร็จรูป ,เครื่องประดับอัญมณี

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here