มาทำความรู้จักของที่มา และความเชื่อของไข่มุกกันนะคะ

ไข่มุก (ที่มาและความเชื่อของไข่มุก)

สีของไข่มุกสามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีเนื้อ สีเหลือง สีชมพู และสีโทนดำ เช่น สีเทา สีเทามืด สีดำ ปัจจุบันใช้เป็นอัญมณีสัญลักษณ์ในวาระโอกาสครบรอบแต่งงานปีแรก ปีที่ 12 และปีที่ 30

คือสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีเนื้อ สีเหลือง สีชมพู และสีโทนดำ เช่น สีเทา สีเทามืด สีดำ ปัจจุบันใช้เป็นอัญมณีสัญลักษณ์ในวาระโอกาสครบรอบแต่งงานปีแรก ปีที่ 12 และปีที่ 30

ประวัติและที่มาของไข่มุก

ไข่มุกเกิดจากการที่หอยมุกเกิดการระคายเคืองเมื่อมี วัตถุแปลกปลอม เช่น กรวดทราย เศษหิน ฯลฯ พัดหลงเข้าไป หอยมุกจะสร้างสารประเภทแคลเซียมคาร์บอเนตมาหุ้มเพื่อลด ความระคายเคือง สารนี้จะมีลักษณะเป็นชั้นๆ เรียกว่า เนเคอร์ (nacre) ทาให้ไข่มุกมีความวาว ยิ่งชั้นเนเคอร์หนามาก ก็ยิ่ง มีความงามมาก หอยจะทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าความรำคาญจะหมดไป เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เมือกนั้นก็จะเคลือบทับซ้อนกันเป็นชั้นๆจนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นไข่มุก

ความเชื่อด้านพลังอำนาจ

ความเชื่อด้านพลังอำนาจ

ไข่มุกจะนำความรัก ความสุข และความสำเร็จมาสู่เจ้าของ ทำให้ผู้ครอบครองมองเห็นและเข้าใจตนเอง นำไปสู่การพัฒนาตนเองให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

ความเชื่อด้านสุขภาพ

ไข่มุกช่วยบำบัดภาวะไม่สมดุลของอารมณ์ ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพบริเวณช่องท้อง ม้าม และลำไส้ใหญ่ และช่วยบรรเทาอาการแผลพุพองและฝีหนอง

การดูแลรักษา

ความร้อน เหงื่อ และเคมีภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม น้ำมันทาผิว ฯลฯ ล้วนสามารถทำให้ไข่มุกเสียหายหรือเป็นรอยได้ การทำความสะอาดสามารถทำได้โดยใช้ผ้านุ่มจุ่มน้ำสะอาดบิดให้หมาด แล้วนำมาเช็ดไข่มุกเบาๆทุกครั้งหลังการสวมใส่ดังนั้น อย่าลืม ฉีดน้ำหอมก่อน แล้อวค่อยใส่เครื่องประดับที่มีไข่มุกนะครับ

ไข่มุกแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ

ได้แก่ ไข่มกุธรรมชาติ (natural pearl) ไข่มุกเลี้ยง (cultured pearl) และไข่มุกเทียม (pearl imitation)

ไข่มุกธรรมชาติเป็นไข่มุกที่หายาก และค่อนข้างแพง โดยทั่วไปมักซื้อขายกันเป็นน้าหนักหน่วยกะรัต แหล่งกาเนิดที่ สาคัญ คือ อ่าวเปอร์เซีย ศรีลังกา ออสเตรเลีย ตาฮิติ และทะเลใต้ แต่ไข่มุกธรรมชาติ และไข่มุกเลี้ยง จัดว่าเป็นไข่มุกแท้ด้วยกันทั้งคู่ เพราะเกิดจากหอยมุกต่างกันแค่ที่มา ไข่มุกแท้เกิดตามธรรมชาติแต่ ไข่มุกเลี้ยงเกิดจากการที่มนุษย์ ช่วยใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวหอยเช่น เนื้อเยื่อ หรือเศษเปลือกหอย มุกเลี้ยงส่วนใหญ่มักซื้อขายกันโดยวัดขนาดเป็นมิลลิเมตร แหล่งกำเนิดที่สาคัญของไข่มุกเลี้ยงคือ ญี่ปุ่น จีน และทะเลใต้ ไข่มุกปลอมหรือไข่มุกเทียมจะทาจากวัสดุอื่นที่มีลักษณะมันวาว มาหล่อขึ้นรูปเป็นทรงกลมและใส่สีเลียนแบบไข่มุกธรรมชาติ เช่น ทำจาก พลาสติกหรือโพลิเมอร์ (polymer) และ ปัจจบุ ันมีการพัฒนาเปลือกหอยมาเคลือบบนผิว ทำให้มีลักษณะคล้ายไข่มุกแท้มาก ไข่มกุ แท้มีรูปร่างหลากหลาย แต่ ไข่มุกที่มีรูปร่างกลมสวยงามก็จะมีราคาแพง

หลักการเลือกซื้อไข่มุกควรพิจารณาดังนี้

หลักการเลือกซื้อไข่มุกควรพิจารณาดังนี้

1. ขนาดและรูปร่างมีผลต่อราคามาก การเลือกขนาดและรูปร่าง ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ขนาดและรูปร่างแบบไหนและจะนำมาใช้เป็นเครื่องประดับอะไรส่วนไข่มุกรูปร่างแปลกๆ น่าจะเหมาะกับการออกแบบสไตล์เก๋ไก๋ เป็นต้น ขนาดของไข่มุกยังมีผลต่อบุคลิกของผู้ใส่อีกด้วย หากผู้สวมใส่ยังอายุน้อยก็อาจจะเลือกไข่มุกขนาดไม่ใหญ่มากนักจะได้ดูน่ารัก ทันสมัย ดั้งนั้นถ้าเรารู้ว่าต้องการไข่มุกขนาดและรูปร่างแบบใด จะทาให้การเลือกซื้อง่ายขึ้น

2. สี สีของไข่มุกมีอยู่ 2 ประเภทคือ Body Color ซึ่งเป็นสีของไข่มุกซึ่ง จะมีสีขาว สีครีม สีเหลือง เป็นต้น และ Overtone ซึ่งเป็นสีเหลือบของไข่มุก อาจมีสีเขียว สีชมพู สีเงิน สีฟ้า สีของไข่มุกขึ้นอยู่กับชนิดของหอยมุกและ สภาวะแวดล้อมที่หอยมุกนั้นอาศัยอยู่ สีจะมีผลต่อราคาไข่มุกด้วย ยิ่งไข่มุกที่มีสีที่หายากประกอบกับความมัน วาวจะมีราคาสูงมาก แต่ปัจจุบันมีการย้อมสีไข่มุกคุณภาพต่าเพื่อให้ได้สีที่หายากเพื่อเพิ่มมูลค่าไข่มุกคุณภาพต่า รวมถึงการฉายรังสีเพื่อให้ได้สีสันแปลกใหม่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อควรพิจารณาให้ดีด้วยว่าสีไข่มุก เป็นสีธรรมชาติหรือสีย้อม

3. ลักษณะเนื้อผิว ไข่มุก ไข่มุกที่ดีจะต้องมีผิวเรียบเนียนเป็นมันไม่มีรอยขุรขระ ไม่มีรอยถลอก และไม่เป็น ฟองอากาศ การเลือกซื้อจึงควรสังเกตอย่างละเอียด ยิ่งราคาแพงยิ่งควรตรวจสภาพผิวไข่มุกอย่างละเอียด

4. ความมันวาว ไข่มุกที่ดี จะมีเนื้อ มันวาวสดใส ประกายเสมอทั้งเม็ด ถ้าความวาวสูง แสดงว่า มีชั้นมุกหนา ทำให้เห็น เหลือบสี (Orient) ของไข่มุกมากโดยเฉพาะเมื่อนำไข่มุกส่องไฟ ยิ่งมีความวาวมาก เหลือบสีมาก แสดง ว่าเป็นไข่มุกที่มีคุณภาพดี ความหนาของชั้นมุกนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเลี้ยงและสภาพแวดล้อมในการเพาะเลี้ยง ดังนั้นสามารถทดสอบได้ว่าไข่มุกมีชั้นมุกหนามากเพียงใดด้วย การดูลักษณะความวาว ดูรอยแตกที่ผิวว่าเห็นเม็ดเปลือกหอย หรือลูกปัดด้านในหรือไม่เมื่อนำไข่มุกส่องกับไฟที่มีความเข้มสูง

เนื่องจากไข่มุกเป็นสัญลักษณ์แทนความสุขในชีวิตแต่งงาน ผู้คนในหลายประเทศทั่วโลกจึงนิยมมอบไข่มุกให้เป็นของขวัญแต่งงานแด่เจ้าสาว ซึ่งแสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์ด้วยทำให้ไข่มุกเป็นอัญมณีจากสิ่งมีชีวิตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากอดีต มาจนถึงปัจจุบันเลยคะ

CR: ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกันอัญมณี

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here