เปิดตัวและวางจำหน่ายให้เราได้เป็นเจ้าของกันไปเรียบร้อยแล้วครับสำหรับ Fitbit Versa 2 รุ่นใหม่ล่าสุดภาคต่อของ Fitbit Versa ที่จัดว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและแน่นอนว่าในรุ่นใหม่มันมาพร้อมความสามารถในการตรวจจับการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย
และแน่นอนว่าทางทีมงาน Sanook Hitech ก็ไม่พลาดที่จะรีวิวรุ่นดังกล่าวให้ได้อ่านกัน สำหรับรอบนี้เราได้ Fitbit Versa 2 รุ่น Special Edition มาเล่นและรีวิวให้ได้อ่านกันครับ
รูปร่างและการดีไซน์ภายนอกของ Fitbit Versa 2 Special Edition
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
Fitbit Versa 2 Special Edition
สายผ้าขนาด L
สายเรซิน
สายชาร์จ
คู่มือการใช้งาน
หน้าตาของ Fitbit Versa 2 ยังมาพร้อมกับหน้าตาที่เรียบง่าย แต่ยังดูดีเหมือนเดิม โดยหน้าจอรองรับทั้ง Touch Screen พร้อมกับการทำงานได้รวดเร็ว สำหรับหน้าจอในรุ่นใหม่จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ที่สำคัญมาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ทำให้จอสวยกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ Versa รุ่นแรกที่เป็นจอ LCD ทำให้เราได้หน้าจอที่คมชัดสู้แสงได้ดีกว่ารุ่นเดิม
รอบตัวเครื่องเป็นวัดสุอะลูมิเนียมที่สัมผัสแล้วรู้สึกดี ไม่หนาและไม่บางเกินไป พร้อมกับปุ่มกด้านข้างขวา และมีไมโครโฟนด้านข้างซ้าย ใต้เครื่องจะมาพร้อมกับระบบวัดชีพจรในตัว ช่วยบอกการเต้นของหัวใจได้
ส่วนสายมีขนาดกำลังดี และสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายเพียงแค่สะกิดปุ่มเล็กๆ ที่สายก็สามารถถอดเปลี่ยนได้ทันที โดยสายผ้าจะเหมาะกับใส่ปกติ และออกกำลังกายไม่หนยักมาก แต่ถ้าสาย เรซิน แนะนำว่าถ้าออกกำลังกายเยอะ ก็ควรจะเลือกสายแบบนั้นจะดีกว่า
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ว่าด้วยเรื่องของชาร์จเท่าที่ได้ลองใช้คือในการชาร์จแต่ละแบตเตอรี่อยู่ได้เต็มที่ประมาณเกือบๆ 1 อาทิตย์ และการชาร์จไฟกลับใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็สามารถข่ายไฟได้เต็มทันที
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน
ฟีเจอร์หน้าจอของ Fitbit Versa 2 จะมาพร้อมกับหน้าปัดนาฬิกาที่สามารถเป็นโหมดและเลือกเปลี่ยนได้อย่างเต็มที่ ผ่านทาง Fitbit Application และหน้าทัชสกรีนสามารถดูข้อมูทั้งการแจ้งเตื่อน, การออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ และรวมไปถึงควบคุมเพลงทั้งจากเครื่อง หรือ Spotify ก็ได้เช่นเดียวกัน
เครื่องมือต่างๆ มีให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาปลุก, นาฬิกาจับเวลา, การแจ้งเตือน และบอกสภาพอากาศ ส่วนโปรแกรมออกกำลังกายก็มีให้เลือกครบทั้งการวิ่งด้วยเครื่อง หรือ วิ่งกลางแจ้ง, ปั่นจักรยาน, เล่น Weight Traning, ว่ายน้ำ, และรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีฟีเจอร์ช่วยให้การออกำกลังกายมีประสิทธิภาพเช่น
"Guided Programs" เป็นโปรแกรมสำหรับต้องการปูแนวทางในการออกกำลังกาย
"Health and Fitness Stats" เหมาะกับคนที่ต้องการท้าทายในการออกกำลังกาย ให้เลือกสูบฉีด
"Mind Fulness" จับเรื่องของการหายใจว่าคุณกำหนดลมหายใจได้ดีแค่ไหน
และยังสามารถดูประจำเดือนสำหรับคุณผู้หญิงได้อีกด้วย
สรุปเรื่องฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Fitbit Versa 2
สำหรับ Interface ของ Fitbit Versa ยังคงเหมือนเดิม สามารถบอกข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกาย, บอกเวลา หรือจะนับถอยหลังได้ รวมถึงฟีเจอร์ Smart ต่างๆ ทั้ง Fitbit Pay จ่ายเงินผ่าน Fitbit, ควบคุมเพลงผ่าน Spotify และ แจ้งเตือนในเรื่องต่างๆ ผ่านมือถือ (ยังไม่รองรับภาษาไทย) พร้อมกับทำงานได้เร็วขึ้นการสั่งงานต่างๆ ยังทำได้รวดเร็ว นอกจากนี้ Fitbit Versa 2 รุ่นใหม่ล่าสุดมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องต่างๆ เช่น
Sleep Score: ผู้ใช้สามารถดูคะแนนด้านการนอนหลับได้ใน แอป พลิเคชัน Fitbit เพื่อตรวจสอบข้อมูลด้านคุณภาพการนอนของตนเอง โดยคะแนนเหล่านี้จะมาจากการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ (ระดับการพักผ่อนและนอนหลับ) ความกระสับกระส่ายในช่วงเวลานอน เวลาที่ตื่นและระดับการนอนหลับ หรือ Sleep Stage
Smart Wake: สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทวอทช์ทุกรุ่นเร็วๆ นี้ โดยฟีเจอร์ Smart Wake นี้ จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยปลุกคุณให้ตื่นเมื่อถึงเวลาตื่นที่เหมาะสม เมื่ออยู่ในช่วง Light หรือ REM ของการนอนหลับ โดยจะปลุกจากการตั้งค่าและจะเว้นช่วงครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นได้
Sleep Mode: เมื่อตั้งการใช้งานในโหมดนี้ เครื่องจะหยุดการทำงานของการแสดงค่าบนหน้าจอและปรับการตั้งค่าเตือนให้อยู่ในโหมดเงียบ เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ถูกรบกวนตลอดคืน Sleep Mode ยังสามารถใช้งานได้ ทุกๆ ครั้งที่ผู้ใช้ไม่ต้องการการรบกวน เช่นเมื่อกำลังประชุมหรือออกกำลังกาย
Estimated Oxygen Variation Graph: อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะสามารถให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ เป็นกราฟแสดงผลที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นระดับอ็อกซิเจนในเลือดของตนเอง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกวัดด้วยเซ็นเซอร์เรดและอินฟราเรดที่อยู่ด้านหลังของเครื่อง การรู้ค่าอ็อกซิเจนในเลือดในระยะสั้นจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเรื่องการหายใจขณะนอนหลับได้มากขึ้น
Always On Display ติดตั้งมาให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
ติดตั้งไมโครโฟนไว้สำหรับการโต้ตอบกลับข้อความได้ (รองรับเฉพาะ Android)
นอกจากนี้ในเรื่องของโปรแกรมออกกำลังกายเพิ่มเติมคุณสามารถซื้อบริการ Fitbit Premium ให้คุณดูคลิปและ Set โปรแกรมการออกกำลังกายได้มากขึ้น รวมถึงเป็นบริการเหมือนกับ ครูฝึกส่วนบุคคล เป็นต้น
เล่าให้ฟังหลังได้ทดลองใส่เป็นเวลา 1 เดือน
ถือว่าเป็น Smart Watch ที่ปรับปรุงฟีเจอร์การทำงานและหน้าตาดีไซน์ใหม่หมดจนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์พอสมควรไม่ว่าจะเป็นทั้งขนาดเล็กลง แบตฯอึด, ฟีเจอร์มากมายรวมถึงการให้ Always On Display ทำให้สะดวกในการมองเห็นหน้าจอได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ได้ 7 วันถ้าไม่ได้ใช้งานหนัก แต่ถ้าเปิดฟีเจอร์เต็มจะหมดเร็วไปสักหน่อย และไม่มีการแจ้งเตือนภาษาไทย อาจจะต้องรอสักหน่อยเพราะคิดว่าอีกไม่นานแล้ว
สำหรับราคาของรุ่นใหม่จะประกอบไปด้วย Fitbit Versa 2 ก็เปิดราคาเริ่มต้นที่ 7,990 บาท และรุ่น Fitbit Versa 2 Special Edition อยู่ที่ 8,990 บาท หากคุณสนใจอยากซื้อสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้