รีวิว Fitbit Versa Lite Edition รุ่นเล็กสุดของ Smart Watch แต่ยังครบเครื่องเพื่อคนรักสุขภาพ

กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook! Hitech ในครั้งนี้ ทีมได้นำ Fitbit รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Versa Lite Edition ซึ่งมีหน้าตาและขนาดหน้าปัดกำลังดี มาดูกันว่า เมื่อเทียบกับรุ่นของ Versa ปกติ จะมีความแตกต่างกันแค่ไหน

แกะกล่อง Fitbit Versa Lite

ภายในกล่องของ Fitbit Versa Lite จะประกอบไปด้วย

นาฬิกา Fitbit Versa Lite Edition

สายชาร์จ

สายสำหรับเปลี่ยนขาดเป็นขนาด L

คู่มือใช้งาน และ ความปลอดภัย

รูปลักษณ์หน้าตาของ Fitbit Versa Lite Edition

เริ่มต้นกับด้านหน้าของ Fitbit Versa Lite Edition จะมาพร้อมกับหน้าปัดที่มีขนาดกลางๆ และสามารถทัชสกรีนได้ดีและปัดไปปัดมา ขึ้นลง ซ้ายขวาได้ โดยโลโก้ Fitbit อยู่ด้านล่าง

ข้างเครื่องเป็นวัสดุที่สีสันโดยฝั่งซ้ายมีปุ่มกดสำหรับย้อนกลับ ฝั่งขวา ไม่มีปุ่มกด ต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด

สายของเครื่องทั้งบนและล่างมีสีสันตามเครื่องสามารถเปลี่ยนสายได้

ส่วนล่างสุดมาพร้อมกับเซนเซอร์ มาพร้อมกับ มีระบบวัดชีพจรหัวใจและมีปุ่มสำหรับเปลี่ยนสายได้ทั้งหน้าหลัง

ฟิลลิ่งการสวมใส่ / น้ำหนัก / สีสันที่จำหน่าย

เนื่องจากหน้าตาส่วนใหญ่เหมือนกัน Fitbit Versa รุ่นปกติทำให้ตัวเครื่องไม่ดูหนักและใส่สบาย และเมื่อมีการควบคุมเพียงปุ่มเดียวทำให้ใช้งานได้ง่ายและ Fitbit Versa สามารถใส่ลงน้ำได้ 50 เมตร แต่ไม่มีระบบการบอกการออกกำลังกายเมื่อว่ายน้ำ ถือว่าน่าเสียดาย

สำหรับสีสันเบื้องต้นของ Fitbit Versa Lite Edition จะมาพร้อมกับ 4 สีได้แก่ สีม่วง, สีฟ้า, สีดำ และ เงินสายสีขาว

เปิดเครื่องลองใช้งาน Fitbit Versa Lite Edition

สำหรับการใช้งาน Fitbit Versa Lite Edition จะต้องเริ่มจาก

โหลดโปรแกรม Fitbit สามารถใช้งานได้ทั้งเวอร์ชั่น Windows, iOS, Android

เมื่อโหลดเรียบร้อยให้เปิดเครื่องและเชื่อมต่อ Bluetooth แนะนำว่าก่อนทำขั้นตอนนี้ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน

เมื่อมือถือกับ Fitbit ได้เจอกันแล้ว ให้เชื่อมต่อกับ WiFi หากเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้การโอนข้อมูลบางอย่างทำได้เร็วขึ้นเช่นการปรับหน้าฟังเพลง

เครื่องสามารถอัปเดท Firmware สำหรับปรับปรุงความสามารถหรือแก้ปัญหาทีส่งมาเพื่อแก้ไขได้

เมื่อเข้ามาได้แล้ว ในหน้าจอของ Fitbit Versa Lite Edition ยังคงใช้เวอร์ชั่น Fitbit OS 2.0 จะมีขนาดกำลังดีในการมอง โดยหน้าปัดนาฬิกาสามารถเปลี่ยนได้ โดยสั่งจาก Application และข้างในจะมีฟีเจอร์มากมายเช่น

โหมดการออกกำลังกาย ที่มีให้เลือกทั้ง การเดิน, วิ่งที่ในร่ม หรือกลางแจ้ง, ปั่นจักรยาน, เล่น Weight, ออกกำลังกายแบบจับเวลา และแบบอื่นๆ

ตั้งปลุก

Relax ที่ช่วยในการใช้ฝึกสมาธิ

เช็คสภาพอากาศ

นาฬิกาจับเวลา, นับถอยหลัง

มี Tips ในการช่วยเหลือ

และยังติดตั้ง Apps เพิ่มได้

และมีการดูแจ้งเตือนได้ด้วย แต่ว่าสำหรับการอ่านข้อความนั้นยังไม่รองรับภาษาไทย รวมถึงรายชื่อโทรศัพท์ด้วยเช่นเดียวกัน และสามารถทัชสกรีนใช้งานได้เหมือนกัน

ภายใน Application  Fitbit อาจจะยังไม่ได้แตกต่างจากการเชื่อมต่อในรุ่น Versa คือสามารถโหลดติดตั้ง Apps, โหลดหน้าปัดนาฬิกา บันทึกข้อมูลต่างๆ และสามารถจับการนอนและแสดงผลเป็นกราฟใน Apps ได้ แต่ว่าฟีเจอร์บางอย่างที่ลดทอนไปตามราคา

การใช้งานแบตเตอรี่ / ชาร์จไฟ

แบตเตอรี่สำหรับรุ่นนี้จากที่ทดลอง ถ้าไม่มีการแจ้งเตือนเลย จะทำให้คุณใช้งานได้นานถึง 4 วันพอดี แต่ถ้ามีการวัดเรื่องการออกกำลังกายและการนับก้าวเดิน อาจจะทำให้การ Standby อยู่ได้สั้นลงไปอีกเล็กน้อย แต่ข่าวดีคือ คือที่ชาร์จไฟค่อนข้างชาร์จไฟได้เร็ว

สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ทดลอง Fitbit Versa Lite Edition มาสักระยะเวลาหนึ่ง

ถือว่าเป็น Smart Watch ที่มีหน้าตาสวยงามและดูดีและให้ฟีเจอร์เกี่ยวกับการออกกำลังกายครบ แต่ไม่มีความบันเทิงเช่นการควบคุมเพลง หรือฟีเจอร์จ่ายเงิน Fitbit Pay ได้ และมีหลากหลายสี พร้อมกับปุ่มเดียวที่ใช้งานได้ง่ายพอสมควร ก็ยังเหมาะกับคนที่ต้องการหา Smart Watch ที่ไม่ยุ่งยาก

ส่วนราคาของ Fitbit Versa Lite Edition เคาะอยู่ที่ 6,690 บาท ถือว่าอยู่ในระดับกลาง และถ้าต้องการ Versa ที่บอกข้อมูลและช่วยออกกำลังกาย นี่เป็นอีกรุ่นที่เป็นทางเลือกที่ดี และการหาซื้อตอนนี้สามารถซื้อได้ทั้งออนไลน์ และ ตัวแทนจำหน่านทั่วประเทศ

จุดเด่น

วัดการนอนที่แม่นยำมาก

หน้าปัดนาฬิกาสวยและดูดี

มีการแจ้งเตือนได้

โปรแกรมวัดการออกกำลังกายครบเครื่อง

สีสันเยอะมากและมีให้เลือกเปลี่ยนสายได้

ข้อสังเกต

ฟีเจอร์ที่หายจากรุ่น Versa มาพอสมควร

ยังไม่มี GPS ภายในตัว

สายชาร์จยังเป็นแบบเฉพาะ

การแจ้งเตือน ไม่มีภาษาไทย

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here